เปิดโลกแห่งความหรูหรากับ 7 ดอกไม้ที่แพงที่สุดในโลก!
ดอกไม้เป็นตัวแทนของความสวยงาม เต็มไปด้วยกลิ่นหอม และยังมีความหมายที่แฝงไว้มากมาย แม้ว่าดอกไม้ส่วนใหญ่จะมีราคาไม่สูงมากนัก ต่อให้เป็นวันวาเลนไทน์ ราคาดอกกุหลาบดอกเดียวอาจพุ่งสูง 300 – 500 บาท แต่ก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับดอกไม้ราคาแพงที่เราจะแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักในบทความนี้
แอบบอกใบ้ให้เล็กน้อยว่าบางชนิดแค่มีเงินอย่างเดียวก็ไม่อาจจะซื้อได้กันเลยทีเดียว เอาละ มาดูกันว่าหน้าตาของดอกไม้หรู ๆ แต่ละดอกจะเป็นยังไง จะสวยงามถูกใจขนาดไหน แล้วทำไมราคาถึงแพงได้ขนาดนี้กันนะ
อันดับที่ 7. ดองดึง หรือ Gloriosa Lily
เริ่มต้นด้วย ดอกดองดึง ดอกไม้ดอกแรกในลิสต์ของเรา ที่อาจจะยังสามารถซื้อหาไว้ได้ก่อน
ดอกดองดึง ดอกไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกาใต้ และสามารถพบในไทยได้ด้วย โดยเป็นดอกไม้ที่มีความสวยงามโดดเด่นเป็นอย่างมาก มีหลากหลายสีสัน ได้แก่ สีเหลืองเขียว สีเขียว สีส้ม และสีแดง สามารถใช้เป็นยาสมุนไพร และที่สำคัญยังหาพบได้ยาก จึงเป็นสาเหตุที่ดอกไม้ชนิดนี้มีราคาแพงสุด ๆ
💲Price: ดอกดึง (Gloriosa Lily) ราคาประมาณ 150-300 บาท ต่อดอก
อันดับ 6. ดอกหญ้าฝรั่น หรือ Saffron Crocus
ต่อด้วยดอกไม้ชนิดต่อมา คนที่เคยเรียนเซฟหรือชื่นชอบการทำอาหาร อาจจะรู้จักหรือเคยได้ยินชื่อ “ดอกหญ้าฝรั่น” ผ่านหูมาบ้าง
ดอกหญ้าฝรั่น หรือดอกแซฟฟรอน (Saffron Crocus) เป็นดอกไม้ที่ได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ว่า มีความงดงามเป็นอย่างมากโดยเฉพาะในเวลาที่ดอกบานสะพรั่ง และนอกจากความสวยงามแล้ว ดอก
หญ้าฝรั่นยังเป็นสมุนไพรชั้นสูงที่วงการเชฟรู้จักกันดีว่ามันเป็นดอกไม้ที่มีราคาสูงมาก จะถูกนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในจานอาหารของร้านหรู ๆ และยังขึ้นชื่ออีกว่าเป็นเครื่องเทศที่แพงที่สุดในโลก
ดอกหญ้าฝรั่นนั้นสามารถเพาะปลูกได้ยากมาก จึงต้องอาศัยความชำนาญในการเพาะปลูกหรือเก็บเกี่ยวมากเป็นพิเศษ จึงเป็นสาเหตุให้มีราคาแพงเป็นอย่างมาก
💲Price: ดอกหญ้าฝรั่น (Saffron Crocus) ราคาประมาณ 40,000-50,000 บาท ต่อ กระบะ
อันดับ 5. ดอกกล้วยไม้คินาบาลู หรือ Gold of Kinabalu Orchid
ดอกไม้เฉพาะถิ่นที่อยู่ใกล้ประเทศไทยเรา ดอกกล้วยไม้คินาลาบู (Gold of Kinabalu Orchid) จัดว่าเป็นดอกไม้ที่หายาก เพราะมีแค่ในอุทยานแห่งชาติ Kinabalu ประเทศมาเลเซียเท่านั้น
ดอกกล้วยไม้คินาลาบูมีความพิเศษที่ลักษณะดอกมีสีทอง ประดับด้วยจุดสีแดง ดูสวยงามโดดเด่น อีกทั้งยังเป็นดอกไม้ที่สามารถเพาะปลูกได้ยาก เนื่องจากต้องใช้ระยะเวลานานหลายปีเลยทีเดียว และยังหาพบได้ยากมากตามธรรมชาติอีกด้วย จึงเป็นสาเหตุให้มีราคาแพง
💲Price: ดอกกล้วยไม้คินาบาลู (Gold of Kinabalu Orchid) ราคาประมาณ 195,000 ต่อดอก
อันดับ 4. ดอกทิวลิปสายพันธุ์ไวซ์เซอรอย หรือ Viceroy Tulip
ฟังชื่อดูอาจจะเป็นแค่ดอกไม้ธรรมดาหรืออีกชนิดของทิวลิป ไม่ได้เข้าใกล้ความเป็นดอกไม้ราคาแพงเลย แต่ในช่วง ศตวรรษที่ 16-17 ชาวยุโรปได้เกิดความคลั่งไคล้ดอกทิวลิปกันเป็นอย่างมากโดยเฉพาะสายพันธุ์ ไวซ์เซอรอยนี้ ทำให้ทิวลิปสายพันธุ์นี้มีมูลค่าสูงมาก จนสามารถนำไปแลกเปลี่ยนกับบ้านทั้งหลังได้เลย
ด้วยความสวยงามและลวดลายเฉพาะตัวของทิวลิปไวซ์เซอรอย ทำให้เป็นที่นิยมของตลาดเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นฉุนมากกว่าดอกไม้ชนิดอื่น ที่สำคัญยังหาพบได้ยาก จึงเป็นสาเหตุที่มีราคาแพงมาก แต่เมื่อเวลาผ่านมาในช่วง ปลายศตวรรษที่ 17 ได้เกิดการเทขายของตลาด และผู้ที่กักตุนไว้เป็นจำนวนมาก จึงทำให้ราคาของดอกทิวลิปสายพันธุ์ ไวซ์เซอรอย ตกลงมาอยู่ในช่วงราคาของดอกทิวลิปปกติ
💲Price: ดอกทิวลิปสายพันธุ์ไวซ์เซอรอย (Viceroy Tulip) ในช่วงศตวรรษที่ 16-17 ราคาประมาณ 1,500,000 บาท ต่อดอก (ปัจจุบันไม่ปรากฏการซื้อขายทิวลิปสายพันธุ์นี้แล้ว)
อันดับ 3. ดอกกล้วยไม้เซินเจิ้น นงเก้ หรือ Shenzhen Nongke
เข้าใกล้อันดับ 1 มาเรื่อย ๆ สำหรับลิสต์ดอกไม้หรูๆ ดอกไม้ราคาแพงของเรา และใครที่ยังสามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อ ดอกกล้วยไม้เซินเจิ้น นงเก้ นี้ได้อยู่ เราเชื่อได้เลยว่า คุณจะต้องรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐีแน่ ๆ เพราะนอกจากเงินอย่างมหาศาลที่ต้องจ่ายไปแล้ว ดอกกล้วยไม้ชนิดนี้ก็ไม่สามารถหาเจอได้ทั่วไปอีกด้วย
ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปนั้นก็เพราะว่า ดอกกล้วยไม้ชนิดนี้ ถูกคิดค้นและสร้างขึ้นด้วยฝีมือของมนุษย์โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Shenzhen Nongke ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ นักวิจัยได้ใช้เวลาในการทดลองนานถึง 8 ปี กว่าจะได้พันธุ์ดอกไม้ชนิดนี้ และยังต้องใช้เวลาในการเพาะปลูกนานถึง 5 ปีกว่าจะออกดอก นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ดอกกล้วยไม้ชนิดนี้มีราคาสูงมาก ๆ
💲Price: ดอกกล้วยไม้เซินเจิ้น นงเก้ (Shenzhen Nongke Orchid) ราคาประมาณ 6,500,000 บาท ต่อต้น
อันดับ 2. กุหลาบจูเลียต หรือ Juliet Rose
สำหรับอันดับ 2 ดอกกุหลาบที่สุดแสนจะไม่ธรรมดานี้ เป็นผลงานศิลปะที่ใช้เวลาพัฒนานานถึง 15 ปี จากนักปรับปรุงพันธ์ชื่อดัง ใครจะมีวาสนาได้ดอกกุหลาบนี้ไปครอบครองกันนะ
ขอบอกเลยว่าถ้าใครได้ไปต้องเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกแน่ ๆ เพราะว่า ดอกกุหลาบจูเลียต ถือเป็นดอกกุหลาบที่สวยที่สุดและมีราคาแพงที่สุดในโลก โดยเปิดตัวดอกไม้ชนิดนี้ที่งานโชว์ดอกไม้ในปี 2006 และถูกประมูลไปในราคา 3 ล้านปอนด์ (130,000,000 บาท) ซึ่งผู้ที่คิดค้นและพัฒนาสายพันธุ์ออกมาคือ นาย เดวิด ออสติน (David C. H. Austin) ที่ทุ่มเทเวลาในการพัฒนาสายพันธุ์มากว่า 15 ปี ลักษณะเด่น ๆ ของกุหลาบคือมีทรงถ้วย สีพีช มีกลีบเรียงสวยงาม มีกลิ่นที่หอมหวานจนถูกนำไปทำเป็นน้ำหอม
💲Price: กุหลาบจูเลียต (Juliet Rose) ราคาประมาณ 130,000,000 บาท ต่อต้น
อันดับ 1. ดอกคาดูปูล หรือ Kadupul Flower
และมาถึงอับดับ 1 แล้วค่ะ! กับดอกไม้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นดอกไม้มีคุณค่ามากที่สุดของโลกซึ่งส่งผลให้ตัวมันกลายเป็นดอกไม้ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก นั่นคือ ดอกคาดูปูล (Kadupul Flower)
ดอกคาดูปูลพบได้ในประเทศศรีลังกา ดอกชนิดนี้จะบานเฉพาะในเวลาเที่ยงคืนและเหี่ยวเฉาไปในไม่กี่ชั่วโมงต่อมา และมักจะบานทุกวันที่พระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น มีกลิ่นที่หอมมาก และที่สำคัญหาพบได้ยากมากด้วย ซึ่งด้วยข้อจำกัดในหลาย ๆ อย่างทำให้ ไม่เคยมีการซื้อขายกันเลยในโลก เพราะความงามที่ถูกจำกัดด้วยเวลาอันแสนสั้นนั้น ทำให้เป็นดอกไม้ที่มีราคาแพงที่สุดจนไม่สามารถประเมินราคาได้เลยค่ะ
💲Price: ดอกคาดูปูล (Kadupul Flower) ไม่สามารถประเมินราคาได้
การสะสมดอกไม้หายากเหล่านี้ ได้กลายเป็นความชอบ ความหลงใหลของใครหลายคน ไม่ว่าจะเพื่อความสวยงาม ความหายาก หรือความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเหตุผลอะไรก็ตามส่งผลให้ราคาของดอกไม้เหล่านี้สูงมาก จนไม่อาจจะสามารถจับต้องได้เลยทีเดียว
แต่เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ก็ไม่ต้องน้อยใจในวาสนาไป ทางเรา ร้านดอกไม้ A Flower Room ก็มีช่อดอกไม้สวย ๆ ความหมายดี ๆ เหมาะสำหรับมอบให้คนพิเศษ มาให้คุณเลือกซื้อในราคาที่เรียกว่าสบายกระเป๋ากันนะคะ