14 กุมภา วันวาเลนไทน์มีที่มายังไง ทำไมถึงเป็นวันแห่งความรัก?
หลายคนน่าจะรู้แหละว่าวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี เป็นวันวาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก ซึ่งเราก็จะเห็นกามเทพแผลงศรเป็นสัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์นี้ แต่เคยสงสัยกันไหมคะว่า มีที่มาที่ไปยังไงบ้าง บทความนี้เรามีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับวันวาเลนไทน์มาฝากกันค่ะ
ประวัติวันวาเลนไทน์ “วันแห่งความรัก” มีที่มาอย่างไร?
วันแห่งความรักนี้ มีที่มาจากวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) ซึ่งเป็นการตั้งขึ้นเพื่อระลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์ (St. Valentine) ผู้เสียชีวิตลงในวันที่ 14 กุมภาพันธ์
สาเหตุที่มีการตั้งให้เป็นวันวาเลนไทน์ก็เพราะว่า ในสมัยจักรพรรดิคลอดิอุสที่ 2 แห่งกรุงโรม (ประมาณปีค.ศ. 268-270) ได้มีการสั่งห้ามให้มีการแต่งงานในกรุงโรม เพราะพระองค์นั้นทรงเชื่อว่าชายหนุ่มโสดเป็นทหารที่ดีกว่าคนที่มีครอบครัวแล้ว และสมัยนั้นก็มีการสู้รบอยู่บ่อยครั้ง แต่นักบุญวาเลนตินัส หรือ นักบุญวาเลนไทน์ ซึ่งขณะนั้นเป็นนักบวชไม่เห็นด้วยและแอบทำพิธีแต่งงานให้กับคนหลายครั้ง เมื่อถูกจับได้ นักบุญวาเลนไทน์จึงโดนขังและถูกประหารในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ โดยก่อนถูกประหารเขาได้แอบส่งจดหมายรักให้กับลูกสาวผู้คุม โดยลงชื่อในจดหมายว่า จากวาเลนไทน์ของคุณ (From Your Valentine)
ต่อมาในปี ค.ศ. 496 จึงได้มีการจัดงานเฉลิมฉลองนักบุญวาเลนไทน์เป็นครั้งแรก หลังจากนั้นเรื่อยมา ก็มีการตีความใหม่จนกลายเป็นวันแห่งความรักจนถึงทุกวันนี้
ความสำคัญของวันวาเลนไทน์
จากเดิมที่ วันที่ 14 กุมภาพันธ์เป็นวันที่ใช้ระลึกถึงนักบุญวาเลนไทน์ในศาสนาคริสต์ เวลาที่ผ่านไปก็ได้มีการพัฒนาการเฉลิมฉลอง และตีความวันนี้เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ จนกลายเป็นวันแห่งความรัก หรือ วันที่คนนิยมแสดงความรักกัน ไม่ว่าจะให้คนรัก ครอบครัว หรือเพื่อน ก็ตาม
วันวาเลนไทน์ในประเทศไทย
ในประเทศไทยเอง เพิ่งเริ่มมีการให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์มาไม่นานนี้เองค่ะ แต่เนื่องจากส่วนใหญ่ไม่ใช่ชาวคริสต์จึงรับมาเฉพาะส่วนที่เป็น “วันแห่งความรัก” คนก็จะนิยมสารภาพรักกันในวันนี้ผ่านการมอบช่อดอกไม้วาเลนไทน์ โดยเฉพาะดอกกุหลาบวันวาเลนไทน์ พร้อมกับการไปเดท หรือไปดินเนอร์กันอย่างโรแมนติก
นอกจากนี้ก็ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่มักจัดขึ้นในวันวาเลนไทน์ เช่น งานจดทะเบียนสมรสที่เขตบางรัก วิวาห์ใต้สมุทร จังหวัดตรัง และการจัดกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับคู่รักในห้างใหญ่ ๆ เป็นต้น
สัญลักษณ์ของวันวาเลนไทน์มีอะไรบ้าง
เมื่อพูดถึงวันวาเลนไทน์ เราก็มักเห็นถึงสิ่งต่อไปนี้อยู่เสมอ ๆ มาดูกันค่ะว่าแต่ละสัญลักษณ์นั้นมีความหมายอย่างไรบ้าง
1.คิวปิด
คิวปิด หรือ กามเทพแผลงศร ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งความรักในตำนานของกรีกและโรมัน โดยคิวปิดจะมีลักษณะเป็นเด็กผู้ชายเจ้าเนื้อถือคันธนูไว้คอยแผลงศรให้คนรักกัน
2.หัวใจ
หัวใจ เพราะมีคนกล่าวไว้ว่า ความรักเกิดจากในหัวใจ ไม่ใช่สมอง ดังนั้นหัวใจจึงเป็นสัญลักษณ์ของวันแห่งความรักด้วยเช่นกัน
3.ดอกกุหลาบสีแดง
ดอกกุหลาบสีแดง คือ สัญลักษณ์ของความโรแมนติก อันเป็นตัวแทนคำบอกรักได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสีแดงนั้นสื่อถึงความรู้สึกและความรักอันลึกซึ้ง และยังเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเลือดและหัวใจ จึงทำให้การมอบดอกกุหลาบสีแดงนั้น สามารถแทนคำพูดได้ว่า ฉันมอบทั้งหัวใจให้เธอ
4.นกคู่รัก (Lovebirds)
นกคู่รัก (Lovebirds)ซึ่งเป็นนกสองตัว เนื่องจากนกนั้นเป็นสัตว์ทีมีคู่เพียงตัวเดียวไปตลอดชีวิตของมันและมักจะมีพฤติกรรมในการช่วยกันดูแลครอบครัว แบ่งปันอาหารให้กัน นกจึงถูกนำมาเป็นสัญลักษณ์ของการครองคู่อย่างมีความสุขและยืนยาว
5.เงื่อนแห่งความรัก (Love knot)
เงื่อนแห่งความรัก (Love knot) เป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันคนสองคน ซึ่งหมายถึงการเชื่อมโยง อย่างแน่นแฟ้น และไม่มีวันจบสิ้น สัญลักษณ์ Love knot นี้ จึงเป็นที่นิยมในการนำไปทำเครื่องประดับต่าง ๆ
FAQ รวมเรื่องควรรู้วันวาเลนไทน์
นอกจากที่มา หรือประวัติของวันวาเลนไทน์แล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คน ก็น่าจะยังสงสัยในหลาย ๆ เรื่อง เราจึงรวบรวมคำตอบมาไว้ให้ตรงนี้เลยค่ะ
ทำไมวันวาเลนไทน์ ถึงให้ ช็อกโกแลต
เหตุผลหลัก ๆ ของการให้ช็อกโกแลตในวันลาเลนไทน์ มีอยู่ 3-4 ข้อค่ะ
ข้อแรก ง่าย ๆ เลยก็คือ คนส่วนใหญ่ชอบทานช็อกโกแลตค่ะ พอได้แล้วเป็นอันว่าแฮปปี้กันทุกราย
ข้อสอง เจ้าช็อกโกแลตนี้ มีความเชื่อมโยงกับเรื่องของอารมณ์ จิตใจ ความสุข รวมไปถึงความต้องการด้วย เพราะว่าในช็อกโกแลต มีสารบางอย่างที่ช่วยกระตุ้นทำให้เกิดความปรารถนาและมีความโรแมนติกมากขึ้น! ซึ่งก็อาจเป็นเพราะว่าช็อกโกแลตนั้นไปช่วยกระตุ้นเคมีในสมองให้เพิ่มระดับของพลังงานและความปรารถนาในตัวเราค่ะ
ข้อสาม เชื่อกันว่าช็อกโกแลตที่ละลายในปากก็อาจจะช่วยให้ใจของผู้รับละลายได้ด้วย! เพราะความอร่อยของช็อกโกแลต ทำให้คนรับอารมณ์ดีขึ้น ก็จะส่งผลให้ใจอ่อน รับรัก หรือรับคำขอโทษได้ง่ายขึ้นนั้นเอง
ข้อสุดท้าย ฟังดูโหดร้ายไปนิด แต่จริง ๆ แล้ว การให้ช็อกโกแลตในวันวาเลนไทน์นั้นเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดของบริษัทผู้ผลิตช็อกโกแลตนั่นเอง 😂 ที่นำเอาสัญลักษณ์ของคิวปิด มาเป็นบรรจุภัณฑ์ของช็อกโกแลตเพื่อเพิ่มยอดขาย แล้วหลังจากนั้นก็เลยกลายเป็นที่นิยมไปเลย
ทำไมวันวาเลนไทน์ ถึงให้ ดอกกุหลาบ
ในวันวาเลนไทน์ คนให้กุหลาบกันก็เพราะว่าดอกกุหลาบนั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก โดยเฉพาะสีแดง ที่เป็นตัวแทนของเลือดเนื้อและหัวใจ อันหมายถึงความรักอันลึกซึ้ง โดยความเชื่อนี้ ก็ไม่ได้กล่าวกันลอย ๆ แต่มีตำนานกรีกโรมันที่กล่าวถึงต้นกำเนิดของดอกกุหลาบ
ไอเดียของขวัญวาเลนไทน์อื่น ๆ
หลายคนน่าจะมีคำถามว่า ถ้าไม่ให้กุหลาบแล้ว ในวันวาเลนไทน์ ให้อะไรดี? เรามีไอเดียมาฝากค่ะ
- การ์ดทำเอง จะทำจากรูป กระดาษแข็ง หรือ ปฎิทินเหลือใช้ก็ได้ค่ะ ติดรูปคู่ สติกเกอร์น่ารัก หรือจะวาดภาพประกอบ พร้อมคำบอกรักหวาน ๆ เท่านี้คนรับก็ใจฟูแล้วค่ะ
- เค้ก หรือ คุ้กกี้ นอกจากช็อกโกแลตแล้ว ของหวานอื่น ๆ ก็ช่วยนำทางไปสู่หัวใจได้เช่นกันค่ะ สาว ๆ กับของหวานนั้นเป็นของคู่กันอยู่แล้ว
- เครื่องประดับเล็ก ๆ ไม่ต้องแพงมาก แค่ให้เป็นสัญลักษณ์ของความรักก็พอแล้วค่ะ
- ของสั่งทำ จะเป็นงานปัก งานพิมพ์ งานเพ้นท์ ขอให้เขารู้ว่า เราตั้งใจสั่งพิเศษเพื่อเขา แค่นี้ก็ยิ้มไม่หุบแน่นอนค่ะ
- ต้นไม้เล็ก ๆ ให้เขาไว้ดูแล เปรียบเสมือนการให้เขาดูแลหัวใจและความรักของเรา ถ้าหากไม่มั่นใจว่าเขาจะดูแลได้ไหม ก็ให้ต้นกระบองเพชรไปเล้ยยย
กิจกรรมวันวาเลนไทน์ที่คู่รักชอบไปทำ
วันวาเลนไทน์ทำอะไรดี? นอกจากจะให้ดอกไม้ หรือของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ แล้ว ก็น่าจะต้องมีกิจกรรมร่วมกันนิดนึง นอกจากไปกินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง แล้วเรามีไอเดียกิจกรรมคู่รักมาฝากเช่นกันค่ะ
- คู่รักสายบุญ ชวนกันไปไหว้พระ ทำบุญ หรือจะไปบริจาคของให้กับผู้ด้อยโอกาสต่าง ๆ ช่วยให้จิตใจผ่องใส และเสริมบุญให้ได้รักกันไปนาน ๆ
- คู่รักสายกิจกรรม จะปีนผาจำลอง หรือ ชวนกันไปทำเวิร์คชอปต่าง ๆ ก็น่าสนใจไม่น้อย
- คู่รักสายสุขภาพ ชวนกันไปเล่นกีฬา หรือจะไปสปา ก็ได้ใช้เวลาร่วมกันแบบเต็มที่
- อยู่บ้าน กิจกรรมใดจะดีไปกว่าอยู่บ้าน ทำอาหารทานกันเอง จุดเทียนเพิ่มความโรแมนติก อาจจะปิดท้ายด้วยการดูหนังที่ชอบด้วยกันสักเรื่อง
สั่งช่อดอกไม้วาเลนไทน์สวยๆ เป็นสื่อบอกรัก สั่งเลย ❤